ฮิลตันเอลซัลวาดอร์: ก้าวสู่ยุคใหม่ของการระดมทุนผ่านโทเค็นบนบล็อกเชน Bitcoin

เป็นการเสนอขายโทเค็น (tokenized asset offering) ครั้งแรกของเอลซัลวาดอร์สำหรับโรงแรม HAMPTON BY HILTON แห่งใหม่

สรุปประเด็นสำคัญ

โอกาสการลงทุน: โรงแรมฮิลตันแห่งใหม่ในเอลซัลวาดอร์กำลังเสนอขายหุ้นที่แปลงเป็นโทเค็น (tokenized shares) เพื่อการลงทุน

รายละเอียดของโทเค็น: โทเค็นเหล่านี้จะออกบน Liquid Network ซึ่งเป็นโซลูชัน Layer 2 ที่สร้างบนบล็อกเชนของ Bitcoin

เงินลงทุนขั้นต่ำ: นักลงทุนต้องการเงินขั้นต่ำ $1,000 เพื่อเข้าร่วม โดยสัญลักษณ์ของโทเค็นคือ HILSV

สิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุน:

  • ได้รับคูปองผลตอบแทน 10% ภายใน 5 ปี
  • ได้รับสิทธิ์พักฟรีที่โรงแรมขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุน

สิทธิประโยชน์สำหรับเอลซัลวาดอร์:

  • พัฒนาตลาดทุนของประเทศ
  • สร้างช่องทางใหม่ให้ธุรกิจระดมทุน
  • เปิดโอกาสการลงทุนใหม่ให้ประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์

ผู้ดำเนินการ:

  • บริษัท Bitfinex Securities ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตเป็นรายแรกของเอลซัลวาดอร์ เป็นผู้ดำเนินการเสนอขายโทเค็นนี้
  • เอลซัลวาดอร์อนุญาตให้ Bitfinex ดำเนินการได้ในเดือนเมษายน 2023

โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดการเงินของเอลซัลวาดอร์ โดย:

  • เปิดตัวสินทรัพย์ประเภทใหม่ (อสังหาริมทรัพย์ที่แปลงเป็นโทเค็น)
  • สร้างโอกาสการลงทุนที่มากขึ้นให้กับประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์

source: cointelegraph

ปรัชญาการลงทุนในหุ้นของปิเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch)

ปิเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch) นักลงทุน ผู้บริหารกองทุน Fidelity Magellan Fund นานถึง 13 ปี ได้เผยเคล็ดลับอันทรงคุณค่าสำหรับนักลงทุนทั่วไป ผ่านบทสัมภาษณ์นี้และหนังสือ “เอาชนะตลาดหุ้นแบบลินช์” (Beating the Street)

ลงทุนในสิ่งที่คุณรู้จัก

ลินช์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนในบริษัทที่คุณเข้าใจ เขาแนะนำบททดสอบง่ายๆ ว่า ลองอธิบายโมเดลธุรกิจของบริษัทให้เด็ก 10 ขวบฟัง ภายใน 2 นาที ถ้าคุณอธิบายไม่ได้ บริษัทนั้นอาจไม่ใช่ทางเลือกการลงทุนที่ดีสำหรับคุณ ลองมองหาบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกับคุณ หรือบริษัทท้องถิ่น ที่คุณมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเขาอยู่แล้ว

เลิกมองตลาดหุ้นเป็นการพนัน

ลินช์ ชี้ว่า ความท้อแท้และการมองตลาดหุ้นเป็นการพนัน เป็นศัตรตัวฉกาจของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ผู้คนที่มองว่าตลาดหุ้นเป็นการพนัน มีแนวโน้มที่จะสูญเสียเงินมากกว่า ดังนั้น การศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ข้อผิดพลาดในการลงทุนที่พบบ่อย

  • ลงทุนในบริษัทที่คุณไม่รู้จัก: อย่าหลงใหลไปกับคำศัพท์เฉพาะทางหรือโมเดลทางการเงินที่ซับซ้อน ให้ความสำคัญกับบริษัทที่คุณเข้าใจโมเดลธุรกิจและผลิตภัณฑ์
  • พยายามจับจังหวะตลาด: แม้แต่มืออาชีพ การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจหรืออัตราดอกเบี้ย ก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก ควรเน้นที่บริษัทที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว
  • เทรดหุ้นบ่อยครั้ง: การซื้อขายหุ้นมากเกินไป อาจทำให้เสียค่าธรรมเนียมโดยใช่เหตุ และพลาดโอกาสในการเติบโต โดยทั่วไปแนะนำให้ยึดหลักการลงทุนในระยะยาว

ถือยาว กำไรยั่งยืน

ลินช์ สนับสนุนกลยุทธ์การซื้อและถือ (Buy-and-hold) โดยแนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นคุณภาพไว้ในระยะยาว การที่คุณเข้าใจพื้นฐานของบริษัท จะช่วยให้คุณสามารถฝ่าช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน และได้รับผลตอบแทนจากศักยภาพการเติบโตของบริษัทนั้น

การตัดสินใจเกษียณตัวเองจากการบริหารกองทุน Magellan Fund ของปิเตอร์ ลินช์

เขาให้ความสำคัญกับการใช้เวลากับครอบครัว และการทำกิจกรรมกุศล สะท้อนให้เห็นว่าความสำเร็จทางการเงิน ไม่ใช่เครื่องวัดคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงอย่างเดียว

การนำหลักการลงทุนของปิเตอร์ ลินช์ ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในบริษัทที่เข้าใจ การศึกษาข้อมูล และการมีมุมมองระยะยาว จะช่วยให้นักลงทุนทั่วไปมีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นมากยิ่งขึ้น

DRiP on Solana

ดริป (DRiP) เป็นแอปพลิเคชั่นที่สร้างขึ้นบนโซลาน่า (Solana) บล็อกเชนอันทรงพลัง วิบุ นอร์บี้ (Vibhu Norby) CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง DRiP ได้อธิบายว่าโซลาน่ามีบทบาทสำคัญอย่างไรที่ทำให้ดริปเกิดขึ้นได้

นอร์บี้ มองว่าประสบการณ์การใช้งานอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นพัง ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ควรเป็นเจ้าของผลงานของตัวเองและสามารถรับการสนับสนุนโดยตรงจากแฟนๆ

ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของ DRiP ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกเพื่อติดตามครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบบนดริป และแลกเปลี่ยนด้วยการรับคอนเทนต์สุดพิเศษที่เรียกว่า “ของสะสม” ซึ่งของสะสมเหล่านี้อาจเป็นเพลง, งานศิลปะ, วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของ แชร์ เก็บสะสม แลกเปลี่ยน หรือแม้กระทั่งขายของสะสมเหล่านี้ได้

โซลาน่า (Solana) เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ดริปใช้แนวคิดที่เรียกว่า “ดรอปเล็ต” ในการสนับสนุนครีเอเตอร์ เมื่อผู้ใช้สมัครสมาชิกช่องของครีเอเตอร์ พวกเขาจะมอบดรอปเล็ตให้กับครีเอเตอร์ทุกเดือน

นอกจากนี้ เมื่อผู้ใช้ชื่นชอบคอนเทนต์ใดเป็นพิเศษ พวกเขายังสามารถมอบดรอปเล็ตให้กับครีเอเตอร์ได้อีกด้วย ด้วยการใช้โซลาน่า ดริปสามารถจ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าคงที่อย่าง USDC วิธีนี้ทำให้ครีเอเตอร์ได้รับผลตอบแทนแม้ว่าจะมีผู้สนับสนุนเพียงไม่กี่คนก็ตาม

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของดริปคือ ของสะสมทั้งหมดเป็น NFT (non-fungible tokens) NFT เป็นไอเท็มดิจิทัลที่มีชิ้นเดียว ไม่สามารถแทนกันได้ โดยอาศัยความปลอดภัยจากบล็อกเชน เทคโนโลยี SSE แบบบีบอัดของโซลาน่า ทำให้ NFT บนดริปมีราคาที่เหมาะสม

หากไม่มีการบีบอัดข้อมูลของโซลาน่า ดริปจะไม่สามารถส่ง NFT ออกไปได้เป็นล้านชิ้นต่อสัปดาห์ในราคาที่เหมาะสม กล่าวได้ว่าโซลาน่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้ดริปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าของของสะสมที่ได้รับจริงๆ

Thematic Investing

การลงทุนเชิงธีม (Thematic Investing) หมายถึง การลงทุนที่ยึดตามแนวโน้มระยะยาวระดับโลก หรือที่เรียกว่า “เมก้าเทรนด์” ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนอนาคต โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. มุ่งเน้นแนวโน้มระยะยาว: แทนที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดระยะสั้น การลงทุนเชิงธีมจะระบุการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ การเติบโตของเมืองขนาดใหญ่ หรือการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์

2. การลงทุนในสินทรัพย์ตามธีม: นักลงทุนจะเลือกลงทุนในบริษัทหรือกองทุนที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเหล่านั้น เช่น การลงทุนในบริษัททางการแพทย์หรือที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ เมื่อแนวโน้มประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น

3. ระยะเวลาการลงทุนระยะยาว: การลงทุนเชิงธีมเป็นกลยุทธ์ระยะยาว เนื่องจากต้องใช้เวลาให้แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นจริงและให้บริษัทที่เกี่ยวข้องเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

note

ความเสี่ยงสูงกว่า: การลงทุนเชิงธีมมุ่งเน้นในหัวข้อเฉพาะ จึงมีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนแบบ กระจายความเสี่ยง

ต้องใช้การวิจัยอย่างต่อเนื่อง: การระบุธีมและบริษัทที่มีศักยภาพ ต้องใช้การวิเคราะห์แนวโน้มและศักยภาพในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีกลยุทธ์ที่รับประกันผลลัพธ์: แม้จะเลือกธีมที่ดี แต่อาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ธีมนั้นถูกแทรกแซง ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงในหลายธีมจึงมีความสำคัญ

ในปัจจุบันมีหลายธีมที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเชิงธีม เช่น:

1. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและประชากร:
– การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ และความต้องการสินค้าและบริการสำหรับผู้สูงอายุ
– การเติบโตของชุมชนเมืองขนาดใหญ่ (Megacities) และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
– การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบครอบครัวและความต้องการที่อยู่อาศัย

2. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี:
– การพัฒนาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการนำไปประยุกต์ใช้ในหลายอุตสาหกรรม
– การเติบโตของพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
– การเปลี่ยนแปลงของการขนส่งและการเดินทางด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ

3. การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ:
– การเติบโตของตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก
– การพัฒนาของเศรษฐกิจฐานความรู้และนวัตกรรม
– การเติบโตของธุรกิจในกลุ่มสินค้าและบริการสุขภาพ

4. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน:
– การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม
– การปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนและการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
– การลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินงานตามหลักความยั่งยืน

5. การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพและการดูแลสุขภาพ:
– การเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสุขภาพและแอปพลิเคชันด้านสุขภาพ
– การพัฒนาของเภสัชกรรมและเทคโนโลยีการรักษาโรค
– การขยายตัวของบริการสุขภาพที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชากรผู้สูงอายุ

6. การเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัว:
– การเติบโตของบริการและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไซเบอร์
– การพัฒนากฎระเบียบและมาตรฐานด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

การลงทุนเชิงธีมต้องอาศัยการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการกระจายความเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

การ Halving ของ Bitcoin ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19-20 เมษายนนี้

ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ Halving ของ Bitcoin ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19-20 เมษายนนี้

BITCOIN ฟื้นตัวข้ามแนวรับ $72,000 ก่อนการ Halving กำลังจะมาถึง

  • BITCOIN สามารถฟื้นตัวข้ามแนวรับที่ $72,000 ในช่วงต้นเดือนเมษายน แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งในตลาด
  • การคาดการณ์ถึงการลดรางวัลการขุด BITCOIN ในครั้งต่อไป หรือที่เรียกกันว่า Halving ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19-20 เมษายนนี้ กำลังเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เกิดกิจกรรมการซื้อขายที่ active ขึ้น
  • นักลงทุนคาดว่าจะมีความผันผวนของราคาที่ค่อนข้างมากในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการ Halving เกิดขึ้น

ทำไมจึงมีความคาดหวังมากมายต่อการ Halving?

  • การลดจำนวน BITCOIN ใหม่ที่ออกสู่ตลาดจะทำให้ BITCOIN ที่มีอยู่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว เนื่องจากอุปทานมีจำกัดลง
  • ในอดีต การ Halving มักจะนำไปสู่การปรับตัวสูงขึ้นของราคาในช่วงหลังด้วย แม้ว่าผลงานในอดีตจะไม่ได้การันตีถึงผลลัพธ์ในอนาคต

ยังคงมีความไม่แน่นอนบางประการ เพราะการ Halving ครั้งนี้กำลังจะเกิดขึ้นในจุดที่ราคา BITCOIN อยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับ Halving ในอดีต ดังนั้น ผลกระทบจึงอาจจะไม่เหมือนเดิม